การมีธุรกิจเป็นของตนเองคือสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่ปัญหาการสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะในตอนเริ่มต้น ย่อมมีอุปสรรคมากมายเสมอ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้หลายคนต้องทำใจยอมแพ้ ฉะนั้นการเริ่มทำธุรกิจหรือสร้างแบรนด์ออนไลน์ที่มีความแตกต่างจากคนอื่นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ
ทำไมการสร้างแบรนด์ที่แตกต่างถึงสำคัญ?
โลกในขณะนี้กำลังหมุดเร็วขึ้นทุกวันครับ เทรนด์และความนิยมต่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้นักการตลาด ธุรกิจ และแบรนด์ต้องแข่งขันกันสูงยิ่งขึ้นเพื่อสนองพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ด้วยเหตุเดียวกันนี้ หากท่านมีสินค้าที่คล้ายกับคู่แข่งและอยู่ในตลาดเดียวกัน คุณอาจจะถูกกลืนเข้าไปในโลกออนไลน์จนทำให้แบรนด์ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ซึ่งสิ่งที่ควรทำก็คือการสร้างจุดเด่นน่าจดจำ ให้แบรนด์ของท่านแตกต่างจากคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์ใหม่ๆ ทำการตลาดดิจิทัล หรือเปิดร้านผ่านโซเชียล
MyShop จะขอกล่าวถึงการ 5 สิ่งที่ต้องมีในการสร้างแบรนด์ออนไลน์ หรือ Digital Branding เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ในยุคดิจิทัลเฟื่องฟูนี้ครับ
1. สร้าง Brand Identity ที่ชัดเจน
การสร้างแบรนด์ออนไลน์นั้นต้องเริ่มจาก Identity หรือ ตัวตน เป็นอย่างแรก ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ Brand Identity ก็คือบุคลิกและเบื้องหน้าและเบื้องหลังของคนคนหนึ่ง เขาเป็นใคร ทำอะไรที่ไหน ก็เหมือนกับการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ครับ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ ซึ่งหากคนคนนั้นแนะนำตัวไม่ดี ขาดจุดเด่น หรือมีโปรไฟล์ที่น่าเบื่อ ก็อาจทำให้คุณไม่อยากคบค้าสมาคมด้วยเท่าไหร่ ลูกค้าก็เช่นกันครับ เพราะหากแบรนด์ไม่มีความน่าสนใจ ลูกค้าก็คงไม่สามารถจำแบรนด์ได้หรือเลือกที่จะมองข้ามไปเลยครับ
สถิติจาก findstack.com พบว่า 86% ของกลุ่มสำรวจ (ประเทศสหรัฐ อังกฤษ และออสเตรเลีย) กล่าวจะเลือกสนับสนุนแบรนด์จากปัจจัย Authenticity หรือความน่าเชื่อถือมากกว่าปัจจัยอื่นๆ การสร้างแบรนด์ออนไลน์ให้เป็นที่รู้จัก สามารถเริ่มจาก Key Message ที่เป็นใจความสำคัญว่าแบรนด์ของท่านนั้นทำอะไร และต้องมีคาแรคเตอร์มาร์เก็ตติ้งที่ชัดเจนให้ผู้บริโภคจำได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ โลโก้ โทนสี คอนเซ็ปต์ สโลแกน ภาษาที่ใช้ หรือแม้กระทั่งพนักงาน ทั้งหมดล้วนสื่อตัวตนของแบรนด์ได้ทั้งสิ้นครับ
ยกตัวอย่างเช่น มังกรบาร์บีกอนที่เป็นมาสคอตสีเขียวยิ้มแป้น หรือ แบรนด์ Nike กับโลโก้ Swoosh ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างเทียบไม่ได้ กล่าวคือ เมื่อลูกค้าได้เห็นชื่อ สี หรือโลโก้ ก็จะสามารถนึกถึงแบรนด์นั้นๆ ได้ทันที รู้ว่าแบรนด์นั้นทำอะไรแบบไหนโดยไม่สับสนกับแบรนด์อื่นๆ นั่นเองครับ
2. รู้จักลูกค้าในอนาคต
เมื่อท่านได้สร้าง Branding ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องทำก็คือการระบุกลุ่มลูกค้าของท่าน เพราะหากไม่มีใครสนใจ ไม่รู้จัก การทำ Branding ก็คงเปล่าประโยชน์ ในยุค New Normal นี้พฤติกรรมของลูกค้านั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นพ่อค้าแม่ขายเจ้าของแบรนด์ก็ควรติดตามความนิยมและเทรนด์ต่างๆ ที่ส่งผลต่อผู้บริโภค ดูว่าลูกค้าต้องการอะไร ชอบหรือไม่ชอบอะไรนั่นเอง
นอกจากนั้นยังต้องมีการกำหนด Target Segment อีกด้วย ซึ่งท่านสามารถเริ่มจาก Demographic เบื้องต้นได้แก่ อายุ เพศ อาชีพ รายได้ ที่อยู่ ความชอบ และแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มๆ ถ้าหากแบรนด์ของท่านมี Product Line ที่หลากหลายก็สามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าได้หลายกลุ่มเลยทีเดียวครับ
การทำแบบนี้ก็เพื่อให้ท่านได้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาแบรนด์ต่อ สานต่อเป้าหมายการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก สร้างความภักดีในแบรนด์ (Brand loyalty) ส่งต่อความรู้สึกร่วมระหว่างลูกค้าและธุรกิจ รวมทั้งเพิ่ม Brand Awareness ให้มากขึ้น ที่จะนำมาสู่ความสนใจซื้อสินค้า เมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการเพราะความชื่นชอบในแบรนด์ จะทำให้รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแบรนด์ได้ครับ
3. สร้างคอนเทนต์สุดครีเอทีฟ
การผลักดันให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในยุคดิจิทัลนี้ ต้องอาศัยคอนเทนต์ที่ดี น่าอ่าน น่าติดตาม และบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้ลูกค้ารับรู้ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการบริหารแบรนด์ให้มีเสน่ห์ครับ
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจท่านอาจจะเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ อย่างเช่นการเขียน บล็อก (Blog) ซึ่งสถิติจาก findstack.com พบว่าธุรกิจ SME ที่มีการเขียนบล็อกนั้นมีการเติบโตของ Lead หรือว่าที่ลูกค้ามากถึง 126% ซึ่งอาจเป็นการเขียนบล็อกให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และเมื่อธุรกิจได้เติบโตมากขึ้นท่านก็สามารถหันไป Content Marketing ผ่านการโฆษณาต่างๆ ได้เช่นกันครับ
4. ช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม
การเข้าหากลุ่มลูกค้าอย่างตรงจุดพร้อมกับเลือกช่องทางในการโปรโมทที่เหมาะสม จะทำให้การสร้างแบรนด์ออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น เว็บไซต์ ซึ่งอาจเป็นเว็บขายของออนไลน์ของท่านเอง ที่สามารถสร้าง Traffic ได้เป็นอย่างดี เก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำไปวิเคราะห์ในการวางแผนทำการตลาด หรือโปรโมทแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น Facebook Ads, Google Ads, หรือแม้แต่ LINE Ad Platform ที่ทั้งสะดวกและใช้งานง่าย อีกทั้งผู้คนในสมัยนี้ล้วนมีสมาร์ทโฟนติดตัวกันแทบตลอดเวลา ฉะนั้นท่านสามารถโปรโมทแบรนด์และสินค้าหรือบริการผ่านแอปขายของออนไลน์
5. การพัฒนาและความสร้างสรรค์
อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้น โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน ดังนั้นแบรนด์ของท่านก็ไม่ควรหยุดนิ่งเช่นกัน แม้จะมีรากฐานที่แข็งแรงก็ต้องตามการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และเทรนด์ต่างๆ สร้างความยืดหยุ่น (Flexibility) ให้ธุรกิจของท่าน นำเสนอและโปรโมทแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ ให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนมีแบรนด์ของท่านเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิต
ทั้ง 5 สิ่งที่กล่าวไปนั้น พ่อค้าแม่ขายก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสร้างแบรนด์ออนไลน์ของตนเองได้ครับ สุดท้ายก็ขอฝาก MyShop เครื่องมือช่วยขายของออนไลน์สมัยใหม่ เกิดมาเพื่ออำนวยความสะดวกพ่อค้าแม่ขายด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ระบบนับสต๊อกสินค้า ระบบออกออเดอร์พร้อมติดตามสถานะจัดส่ง รองรับการชำระหลายช่องทาง ทั้งยังให้ท่านได้สร้างเว็บขายของออนไลน์ของตนเองได้ง่ายๆ อีกด้วย หากท่านมีบัญชี LINE OA อยู่แล้ว ก็สามารถเปิดบัญชี MyShop ได้ทันทีครับ
